top of page
ค้นหา

สร้างบ้านยุคใหม่ เย็นกว่า เบากว่า แข็งแรงกว่า : เจาะลึกประโยชน์ของระบบอาคารคอนกรีตน้ำหนักเบา

  • รูปภาพนักเขียน: Aqualine Graphic
    Aqualine Graphic
  • 24 ก.ย.
  • ยาว 1 นาที

ในยุคที่เทคโนโลยีการก่อสร้างก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความแข็งแรงของอาคาร แต่ยังเชื่อมโยงโดยตรงกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย การประหยัดพลังงาน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม "คอนกรีตน้ำหนักเบา" หรือ "คอนกรีตมวลเบา" (Lightweight Concrete) ได้กลายเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาตอบโจทย์เหล่านี้อย่างครบวงจร และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมก่อสร้างสมัยใหม่


คอนกรีตน้ำหนักเบาเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบากว่าคอนกรีตทั่วไป แต่ยังคงความแข็งแรงและทนทาน มันถูกออกแบบมาเพื่อลดน้ำหนักของโครงสร้าง ทำให้การก่อสร้างง่ายขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายในหลายด้าน


คอนกรีตน้ำหนักเบาคืออะไร?

โดยพื้นฐานแล้ว คอนกรีตน้ำหนักเบาคือคอนกรีตที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าคอนกรีตทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่คอนกรีตปกติมีน้ำหนักประมาณ 2,400 กก./ลบ.ม. คอนกรีตน้ำหนักเบามีน้ำหนักเพียง 300 - 1,800 กก./ลบ.ม. เท่านั้น หัวใจสำคัญที่ทำให้น้ำหนักเบาลงคือ การสร้างโพรงอากาศหรือฟองอากาศขนาดเล็กจำนวนมาก ให้กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วเนื้อคอนกรีต ซึ่งฟองอากาศเหล่านี้ทำหน้าที่แทนที่มวลรวมหยาบ (หิน) ทำให้ได้วัสดุที่เบาขึ้น แต่ยังคงความแข็งแรงไว้ได้


ในท้องตลาดมีคอนกรีตมวลเบาหลักๆ อยู่ 2 ประเภทตามกระบวนการผลิต

1. ระบบอบไอน้ำ (Autoclaved Aerated Concrete - AAC): ผลิตในโรงงานโดยใช้ปฏิกิริยาเคมีจากผงอะลูมิเนียมสร้างฟองอากาศ แล้วนำไปอบด้วยไอน้ำแรงดันสูง (Autoclave) เพื่อเร่งการแข็งตัว ผลิตภัณฑ์ที่ได้มักเป็นบล็อกสีขาว


2. ระบบเซลลูล่าร์ (Cellular Lightweight Concrete - CLC หรือ LCC): ผลิตโดยการใช้เครื่องสร้างฟองโฟมจากภายนอก แล้วนำโฟมที่ได้ไปผสมกับปูนมอร์ตาร์โดยตรง ทำให้สามารถผลิตได้ทั้งในโรงงานและที่หน้างานก่อสร้าง (On-site Casting) ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีสีเทาเหมือนปูนซีเมนต์


5 ประโยชน์หลักของระบบอาคารคอนกรีตน้ำหนักเบา

1. น้ำหนักเบา ลดภาระโครงสร้าง ประหยัดต้นทุนโดยรวม

ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดคือ น้ำหนักที่เบาลง 30-50% หรืออาจเบากว่าคอนกรีตปกติถึง 2-3 เท่า การลดน้ำหนักบรรทุกคงที่ (Dead Load) ของอาคารลงได้มหาศาลนี้ ส่งผลโดยตรงให้สามารถลดขนาดของโครงสร้างหลัก เช่น เสา คาน และฐานรากได้ ซึ่งไม่เพียงช่วยประหยัดค่าวัสดุและเหล็กเสริม แต่ยังลดค่าใช้จ่ายในการทำฐานรากได้อย่างมีนัยสำคัญ การใช้คอนกรีตน้ำหนักเบาช่วยให้สามารถสร้างอาคารที่มีรูปทรงที่ซับซ้อนได้ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักที่มากเกินไป


2. เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยม ช่วยบ้านเย็น ประหยัดพลังงาน

ฟองอากาศเล็กๆ จำนวนมากที่แทรกตัวอยู่ในเนื้อคอนกรีต ทำหน้าที่เป็น "ฉนวนกันความร้อน" ชั้นดี สามารถป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารได้ดีกว่าผนังอิฐมอญถึง 4-8 เท่า ทำให้อุณหภูมิภายในอาคารเย็นสบาย ลดการทำงานหนักของเครื่องปรับอากาศ และประหยัดค่าไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 30% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายอาคารประหยัดพลังงาน


3. กันเสียงรบกวน สร้างสภาวะน่าสบาย

โครงสร้างที่มีรูพรุนของคอนกรีตน้ำหนักเบาไม่เพียงแต่กันความร้อน แต่ยังช่วยดูดซับคลื่นเสียงได้ดีอีกด้วย จึงสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับที่อยู่อาศัยที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น บ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม หรือโรงแรม


4. ทนไฟได้นาน ปลอดภัยยิ่งขึ้น

คอนกรีตมวลเบาเป็นวัสดุอนินทรีย์ที่ไม่ติดไฟและไม่ลามไฟ โดยมีคุณสมบัติทนไฟได้นานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่าวัสดุก่อผนังทั่วไปอย่างอิฐมอญถึง 2-4 เท่า จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สินหากเกิดเหตุอัคคีภัย


5. ก่อสร้างรวดเร็วและยืดหยุ่น

ด้วยน้ำหนักที่เบา ทำให้การขนย้ายและติดตั้งทำได้สะดวกและรวดเร็วกว่า สามารถก่อสร้างได้เร็วกว่าการใช้อิฐมอญ 2-3 เท่า นอกจากนี้ ระบบคอนกรีตน้ำหนักเบา โดยเฉพาะประเภท LCC (Lightweight Cellular Concrete) ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง สามารถผลิตได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่อิฐบล็อก (Block), แผ่นผนังสำเร็จรูป (Panel), ระบบพรีคาสท์และโมดูลาร์ (Precast & Modular) ไปจนถึงการเทหล่อในที่ (On-site Casting)


Greentix
Greentix


Greentix: ยกระดับคอนกรีตน้ำหนักเบาสู่มาตรฐานใหม่

แม้ว่าคอนกรีตน้ำหนักเบาจะมีประโยชน์มากมาย แต่ในอดีตคอนกรีตระบบเซลลูล่าร์ (CLC) เคยมีข้อจำกัดด้านความแข็งแรงที่ต่ำกว่าและความไม่สม่ำเสมอของคุณภาพ

Greentix ได้เข้ามาปฏิวัติวงการด้วยนวัตกรรม คอนกรีตมวลเบาแอลซีซี (Lightweight Cellular Concrete: LCC) ที่ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ เพื่อสร้างความสมดุลที่ลงตัวที่สุดระหว่าง ความเบา ความแข็งแรง และความยั่งยืน หัวใจสำคัญของ Greentix คือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นจากการวิจัยและพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีกว่า 15 ปี ประกอบด้วย


นวัตกรรมน้ำยาสร้างฟองอากาศ (Air Bubble Agent)

เราใช้น้ำยาสูตรพิเศษจากธรรมชาติ ชนิดเซลล์ปิด (Bio-Based Closed Cell Foaming Agent) ที่มีความเสถียรสูง สามารถสร้างฟองอากาศขนาดเล็ก (100-400 ไมครอน) ได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณสมบัติที่เหนือกว่าและเสถียรกว่า CLC ทั่วไป

การออกแบบส่วนผสม (Mix Design) ที่แม่นยำ

เรามีสูตรการออกแบบส่วนผสมที่หลากหลาย สามารถปรับคุณสมบัติของคอนกรีตให้ตรงกับการใช้งานแต่ละประเภทได้ ตั้งแต่งานผนังไปจนถึงงานโครงสร้างรับน้ำหนัก


เครื่องจักรและกระบวนการผลิตประสิทธิภาพสูง

เราออกแบบและพัฒนาเครื่องจักรเฉพาะทางที่สามารถควบคุมการสร้างฟองอากาศและการผสมได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีคุณภาพสม่ำเสมอตามมาตรฐานสากล (ASTM, ACI)


ด้วยเทคโนโลยีเอกสิทธิ์นี้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ LCC ของ Greentix มีจุดเด่นที่แตกต่าง

• สมดุลที่สุด: เบากว่าคอนกรีตปกติ แต่แข็งแรงกว่า CLC ทั่วไป

• คุณสมบัติครบครัน: เป็นเลิศทั้งการเป็นฉนวนกันความร้อน กันเสียง และกันน้ำซึม

• ยืดหยุ่นสูงสุด: ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น อิฐมวลเบา (Lightweight Block), ผนังสำเร็จรูป (Panel), ระบบพรีคาสท์และโมดูลาร์ (Precast & Modular) หรือ การเทหน้างาน (On-site Casting)

• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly): เป็นวัสดุ Low Carbon ที่ช่วยลดการปล่อย CO₂ ประหยัดพลังงาน และตอบโจทย์อาคารเขียวและความยั่งยืน


เลือก Greentix เพื่ออนาคตการก่อสร้างที่ดีกว่า แข็งแรงกว่า และเป็นมิตรต่อโลกมากกว่า

สนใจโซลูชันคอนกรีตน้ำหนักเบา Greentix ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้แล้ววันนี้!

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page